สบส. ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงใช้ “บริการเดลิเวอรี่ความงามปลายเข็ม” เสี่ยงเสียโฉม เสียชีวิต !!

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ห่วงภัยจากการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะบริการเดลิเวอรี่ฉีดสารเสริมความงามถึงบ้าน ย้ำเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งมีอันตรายสูง เสี่ยงเสียโฉม ตาบอด ถึงขั้นเสียชีวิต จากหมอเถื่อนและสารเสริมความงามที่ไม่ได้มาตรฐาน วอนประชาชนหากพบอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด และให้ใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปเป็นหลักฐาน และรีบแจ้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทางเฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือที่สายด่วน 02 193 7999 เพื่อจัดการลงโทษตามกฎหมายโดยทันที นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้สถานพยาบาลประเภทเสริมความงามมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงมีการแข่งขันโดยการโฆษณาผ่านสื่อทุกช่องทาง โดยเฉพาะการโฆษณาชักชวนให้รับบริการเสริมความงาม หรือลดริ้วรอยด้วยการฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งจะทำให้ใบหน้าเนียนใส เต่งตึง เอิบอิ่ม ดูอ่อนกว่าวัยหรือฉีดเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น จึงทำให้ประชาชนเกิดความต้องการรับบริการเสริมความงามมากขึ้น โดยขาดการไตร่ตรองถึงผลข้างเคียง หรืออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นายแพทย์ธงชัย กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว กรม สบส.มีความห่วงใยความปลอดภัยประชาชนในการรับบริการฉีดสารเสริมความงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตในสังคมเมืองยุคปัจจุบันที่นิยมรับบริการแบบเดลิเวอรี่ส่งถึงบ้านเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางออกนอกบ้าน ทั้งบริการอาหาร แต่งหน้า ทำผม ล้างรถ แต่บริการเดลิเวอรี่ที่ประชาชนห้ามใช้บริการโดยเด็ดขาด คือ บริการฉีดสารเสริมความงามทุกชนิดถึงบ้าน เพราะเสี่ยงเกิดอันตรายสูง ทั้งจากผู้ฉีดที่เป็นหมอเถื่อน จากสารที่ไม่ได้มาตรฐาน และเป็นการกระทำผิดกฎหมาย เพราะตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดให้การฉีดสารเสริมความงามทุกชนิดต้องกระทำในสถานพยาบาล โดยแพทย์ที่มีความรู้ ความชำนาญเท่านั้น เนื่องจากหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที “หากมีบุคคลใดอ้างตนเป็นแพทย์ให้บริการนอกสถานพยาบาล ให้ถือว่าเป็นหมอเถื่อน หรือหมอกระเป๋า ขอให้ใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูป พร้อมแจ้งมาที่เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์, มือปราบสถานพยาบาลเถื่อน หรือที่สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค 02 193 7999 กรม สบส.จะเร่งดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที” นายแพทย์ธงชัย กล่าว ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กำหนดให้คลินิกต้องใช้สารฟิลเลอร์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และทำในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการฉีดมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหากฉีดไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะจากผู้ที่มิใช่แพทย์ เช่น ติดเชื้อจากเครื่องมือไม่สะอาด สารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปอุดตันหลอดเลือดทำให้เนื้อตาย ซึ่งมักพบได้บ่อยที่จมูก และร่องแก้ม หากสารฟิลเลอร์ไปอุดตันหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตาจะทำให้ตาบอด ซึ่งตำแหน่งที่พบว่าฉีดแล้วทำให้ตาบอด คือ หว่างคิ้ว และร่องแก้ม ทั้งนี้หากสารที่ฉีดรั่วไหลเข้าไปในกระแสเลือด หรือผู้รับบริการมีอาการแพ้อย่างรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งจากการตรวจจับคลินิกเสริมความงามเถื่อนที่ผ่านมา พบว่าสารฟิลเลอร์ที่ใช้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. โดยคลินิกจะแอบอ้างว่าเป็นยี่ห้อเดียวกับดาราระดับฮอลลีวูดใช้