กรม สบส.ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรฯ ทุกวันจันทร์แรกของเดือน

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดพิธีทำบุญตักบาตรทุกวันจันทร์แรกของเดือน จนครบระยะเวลา 1 ปี เพื่อ ถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช พร้อมเร่งดำเนินการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพประชาชนทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ทั่วประเทศ สร้างสุขภาพดีทั้งกาย/ใจ เป็นฐานพัฒนาสังคม เศรษฐกิจของชาติให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2559) ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) นำคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรม สบส. ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 10 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลและเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดย กรม สบส. ทั้งส่วนกลางและสำนักงานเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ ได้กำหนดจัดพิธีทำบุญในทุกวันจันทร์แรกของเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปี นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวต่อว่า ในการนี้ กรม สบส. ได้ น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสุขภาพของพสกนิกร ซึ่งจะมีผลต่อการขับเคลื่อน พัฒนาประเทศในทุกๆด้าน ดังกระแสพระราชดำรัสที่ว่า “การรักษาความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายเป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดีและสังคมที่มั่นคงเพราะร่างกายที่แข็งแรงนั้น โดยปกติจะอำนวยผลให้สุขภาพจิตใจสมบูรณ์และเมื่อมีสุขภาพสมบูรณ์ดี พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ย่อมมีกำลังทำประโยชน์สร้างสรรเศรษฐกิจ และสังคมของบ้านเมืองได้เต็มที่ ทั้งไม่เป็นภาระแก่สังคมด้วย คือเป็นผู้แต่งสร้างมิใช่ผู้ถ่วงความเจริญ” ทั้งนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ได้มอบหมายให้กองสุขศึกษา เร่งให้ความรู้การดูแลสุขภาพ การพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพไม่ให้เป็นโรค และปลูกฝังสุขบัญญัติในกลุ่มนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1-6 ทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชนเพื่อเป็นการปูพื้นฐานการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องตั้งแต่หัวจรดเท้า และมอบหมายให้กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน พัฒนาฟื้นฟูองค์ความรู้สุขภาพสมัยใหม่ให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม. ทั้งไทยและต่างด้าว เพื่อให้ความรู้ประชาชนในการดูแล สร้างสุขภาพของตนเองและครอบครัวให้มีสุขภาพดีแข็งแรงทั้งกาย-ใจ ซึ่งเรื่องของสุขภาพผู้ที่จะดูแลได้ดีที่สุดคือตัวเอง และหากทุกคนมุขภาพกาย-ใจที่ดีพร้อมแล้ว ประเทศก็สามารถใช้งบประมาณพัฒนาด้านอื่นๆให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยื่น เพราะไม่ต้องนำงบมาใช้จ่ายกับการรักษาการเจ็บ ป่วย หากใช้ก็เป็นส่วนน้อย