สบส. พบนักเรียน ป.1-6ไม่เคยแปรงฟันก่อนนอนร้อยละ 9 เร่ง อสม.กระตุ้นพ่อ-แม่
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยผลสำรวจพฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติแห่งชาติของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1-6 ใน 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศปี 2558 พบร้อยละ 9 ไม่เคยแปรงฟันก่อนนอน ทำให้เสี่ยงฟันผุแนะให้ อสม.เผยแพร่ความรู้และกระตุ้นให้ผู้ปกครองใส่ใจลูกหลานให้แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และแปรงลิ้นทุกครั้งหลังการแปรงฟัน เน้นพ่อ-แม่ให้ดูแลสุขภาพช่องปากเด็กเล็กตั้งแต่ก่อนฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น นายแพทย์วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีรัฐบาลไทยได้กำหนดให้เป็นวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มารดาแห่งวงการทันตแพทย์ไทย เพื่อให้ความสำคัญถึงการรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน กรม สบส.ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และได้ดำเนินการปลูกฝังสุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ ให้แก่เด็กและเยาวชนวัยเรียนให้ปฏิบัติเป็นสุขนิสัย โดยในข้อที่ 2 เน้นให้รักษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันอย่างถูกต้อง อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อให้การแปรงฟันมีประสิทธิภาพส่งผลต่อสุขภาพช่องปากที่ดี ใช้เวลาในการแปรงฟันนาน 2 นาที งดการรับประทานขนมกรุบกรอบทุกชนิดที่มีส่วนผสมหลักของแป้งและน้ำตาล น้ำหวาน น้ำอัดลม เป็นทั้งกรดผสมน้ำตาล ลูกอมก็มีน้ำตาลผสมอยู่มาก ให้เลือกกินผลไม้สดแทน เพราะผลไม้สดจะมีวิตามินช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และมีเส้นใยช่วยทำความสะอาดฟัน ฟันจะได้ไม่ผุ แถมไม่อ้วนอีกด้วย แต่จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่ายังได้ผลไม่เท่าที่ควร ผลสำรวจล่าสุดปี 2558 ในนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 3,455 คน จาก 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ พบว่ามีนักเรียนแปรงฟันก่อนนอนทุกวันเพียงร้อยละ 58 และไม่เคยแปรงฟันก่อนนอนเลยร้อยละ 9 เป็นเหตุให้เกิดแบคทีเรียสะสมในช่องปากและฟันผุได้ง่าย อาจส่งผลให้ขาดสมาธิในการเรียนจากการปวดฟัน นายแพทย์วิศิษฎ์ กล่าวต่อไปว่า ในการเพิ่มการดูแลสุขภาพช่องปาก และป้องกันการเกิดฟันผุ ในปีงบประมาณ 2560 กรม สบส.ได้สั่งการให้กองสุขศึกษา ดำเนินการขยายความรู้ด้านสุขบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นหลักการสำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดีของเยาวชน ที่จะติดตัวไปถึงผู้ใหญ่ โดยจะพัฒนาเป็นโรงเรียนสุขบัญญัติในตำบลจัดการสุขภาพกว่า 7,000 ตำบลทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในหลักสูตรและนอกหลักสูตร (ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้) และการปฏิบัติจริงหลังรับประทานอาหารกลางวัน ขณะเดียวกันได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรืออสม. ซึ่งมีความใกล้ชิดกับชุมชนเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ช่วยเผยแพร่ความรู้การดูแลสุขภาพช่องปากผ่านทางหอกระจายข่าวทุกหมู่บ้าน ต่อเนื่องทุกวันและกระตุ้นให้ผู้ปกครองดูแลให้เด็กแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น นอกจากนี้ ให้อสม.เผยแพร่ความรู้แก่หญิงหลังคลอดในการป้องกันฟันผุในเด็กเล็ก โดยเฉพาะการป้องกันฟันผุจากการดื่มนมจากขวด ให้แนะนำให้พ่อ-แม่ ผู้ปกครองเด็กใช้ผ้ากอซที่สะอาดชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดบริเวณเหงือกของเด็กให้ทั่วทั้งปาก และเริ่มแปรงฟันให้เด็กทันทีที่ฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และระวังอย่าให้เด็กหลับคาขวดนม เพราะจะเสี่ยงเกิดฟันผุได้
เอกสารประกอบ
1.
Picture
