สบส. ยันสปา นวด เดิมที่ได้รับใบรับรองกว่า 1,700 แห่งทั่วไทย เปิดบริการต่อได้ตามปกติ
สบส. ยันสปา นวด เดิมที่ได้รับใบรับรองกว่า 1,700 แห่งทั่วไทย เปิดบริการต่อได้ตามปกติแนะผู้ประกอบการหากพบเจ้าหน้าที่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ขอให้แจ้งกรมสบส.ทันที !! กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ยืนยันสถานประกอบการเพื่อสุขภาพกว่า 1,700 แห่ง ที่ได้รับใบรับรองตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับพ.ศ. 2551 ที่ออกตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติไม่ขัดกฎหมายสถานประกอบการเพื่อสุขภาพฉบับใหม่ที่จะใช้ตั้งแต่ 27 กันยายน 2559 แนะผู้ประกอบการหากพบมีเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ ขอให้แจ้งสายด่วน สบส. 02 193 7999 หรือที่เฟซบุ๊ค กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ จะเร่งดำเนินการทางกฎหมายทันที นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรงสาธารณสุข กล่าวว่า ระหว่างที่รอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานประกอบการเพื่อสุขภาพฉบับใหม่ พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 กันยายน 2559 กรมสบส.ได้มอบหมายให้กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ สปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงามที่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2551 ที่ออกตามพ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 จำนวนกว่า 1,700 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งร้อยละ 70 เป็นสถานบริการประเภทนวด อีกร้อยละ 28 เป็นสปา ที่เหลือเป็นนวดเพื่อเสริมความงาม โดยกว่าร้อยละ 30 อยู่ใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัดได้ประสานไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ พ.ร.บ.ฉบับใหม่กำหนดทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย ด้านสถานที่ ผู้ประกอบกิจการ/ผู้ดำเนินการ ผู้ให้บริการ การบริการ และความปลอดภัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการขออนุญาตเปิดกิจการสถานประกอบการฯ ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2559 เป็นต้นไป โดยในช่วงนี้สถานประกอบการฯ ทุกแห่งที่ได้รับใบรับรองจากกรมสบส.มาก่อนหน้าแล้ว สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน กรมสบส.ก็ได้มีการจัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ พ.ร.บ.ใหม่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการยุติใช้กฎหมายฉบับเก่า และการเริ่มใช้กฎหมายใหม่ อาจมีผู้ฉวยโอกาสเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการได้ ดังนั้นหากพบมีเจ้าหน้าที่มีพฤติกรรมดังกล่าว ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้แจ้งไปที่สายด่วน สบส. หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7999 หรือที่เฟซบุ๊ค กองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ทางกรมสบส.จะเร่งดำเนินการทางกฎหมายทันที ทางด้านนายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 จะครอบคลุมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพทั้งสปา นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อเสริมความงาม ที่มีอาคาร สถานที่ตั้ง ชัดเจน จะต้องขออนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่มิได้ครอบคลุมถึงการนวดที่ไม่ได้อยู่ในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เช่น บริการนวดเท้าริมทาง การนวดริมชายหาด และรับนวดตามบ้าน อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ผู้ให้บริการในสถานที่ๆกล่าวมา เข้ารับการอบรมตามหลักสูตรที่กรม สบส.ให้การรับรองซึ่งมี 645 หลักสูตร เพื่อให้มีคุณวุฒิ ประกอบอาชีพนวดได้อย่างมีมาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้รับบริการ และหากต้องการทำงานในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพก็สามารถนำวุฒิบัตรไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการตามกฎหมายกำหนดได้
