สาธารณสุขชุมชน : อสม.ต่างด้าว ในยุคประชาคมอาเซียน
ในปลายปี 2558 นี้ ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community) หรือAEC อย่างสมบูรณ์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งมีประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมียนมาร์ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ถือเป็นการเปิดเสรีทางการค้าอย่างเป็นทางการ การเคลื่อนย้ายเข้ามาเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่มีส่วนเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ด้านเศรษฐกิจไทยมากขึ้นโดยเฉพาะในด้านแรงงานฝีมือ ซึ่งประกอบด้วย 7 สาขาอาชีพ ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล นักบัญชี วิศวกร สถาปนิก และนักสำรวจ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่มีอาชีพดังกล่าวสามารถเคลื่อนย้ายเข้าไปทำงานในประเทศ ต่างๆ ได้โดยเสรี นอกจากนี้แล้วกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการจัดทำแผนจะพัฒนาศูนย์การแพทย์ใน5ภูมิภาคของประเทศไทย ในฐานะศูนย์การแพทย์ของอาเซียน เพื่อการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ระดับโลก และโรงพยาบาล 50 แห่งในพื้นที่ชายแดนสามารถรองรับกับตัวเลขการเพิ่มขึ้นในการใช้บริการของผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้านที่เดินทางเข้ามารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทย ทั้งนี้ได้มีการเฝ้าระวังโรคติดต่อที่จะเข้ามาพร้อมกับการเปิด AEC หรือกลุ่มแรงงานที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งโรคที่มักพบในภูมิภาคอาเซียน มี 3 กลุ่ม คือ1.โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ โรคหัดและหัดเยอรมัน และโรคอีสุกอีใส 2.โรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ไวรัสตับอักเสบเอ โรคไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย และ3.โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ได้แก่ โรคตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบบี เป็นต้น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เป็นหน่วยงานหลักด้านระบบบริการสุขภาพและระบบสุขภาพภาคประชาชน เสริมสร้างศักยภาพ พัฒนาเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และภาคีเครือข่ายในการส่งเสริมสนับสนุนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน ทั้งในภาวะปกติ ภาวะฉุกเฉิน และภัยพิบัติ ภายใต้นโยบายของ น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมมาตรฐานอาสาสมัครสาธารณสุข ประชากรต่างด้าว พร้อมเอกสารประกอบการสอนตามหลักสูตร และคู่มืออาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว ฉบับภาษาไทย กัมพูชา พม่า ลาว และเวียดนาม นอกจากนี้ยังได้พัฒนาหลักสูตรครูฝึกอบรมมาตรฐานอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว พร้อมดำเนินการฝึกอบรม “ครูฝึกอบรมมาตรฐานอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว” ขึ้น เพื่อพัฒนาให้เป็นครูพี่เลี้ยงที่มีความรู้ ความชำนาญ แนะนำให้เกิดการตระหนักในการดูแลสุขภาพมากขึ้น และสามารถถ่ายทอดความรู้ กระตุ้นชักชวนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค คัดกรองกลุ่มเสี่ยง และปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ประชากรต่างด้าว เพื่อเป็นนักจัดการสุขภาพที่มีคุณภาพ การประสาน ความร่วมมือการทำงานระหว่างเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขคนไทย ลดความเหลื่อมล้ำให้คนไทยและคนต่างด้าวมีสุขภาพอนามัยดีอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ผู้ที่เข้ารับการอบรมถือเป็นอาสาสมัครสาธารณสุข ต้องตระหนักในการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค โดยให้คำแนะนำ ถ่ายทอดองค์ความรู้แก่เพื่อนบ้านและแกนนำสุขภาพประจำครอบครัว แกนนำชุมชนในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยให้แข็งแรงให้เกิดการเจ็บป่วยน้อยที่สุด การดูแลสิทธิประโยชน์ด้านหลักประกันสุขภาพและสาธารณสุขของประชาชนในหมู่บ้านบนพื้นฐานข้อมูลของชุมชนให้สอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจ และจิตใจควบคู่กันไป สามารถดำเนินงานสุขภาพภาคประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มประชากรต่างด้าว เพื่อสร้างเศรษฐกิจประเทศไทยให้มั่นคงต่อไปในอาเซียนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ สามารถขอรับการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครสาธารณสุขประชากรต่างด้าว ทั้งด้านหลักสูตรอาสาสมัครสาธารณสุข หลักสูตรครูฝึก และคู่มือต่างๆ ได้ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ Call Center Call Center 02-193-7999 ตลอด 24 ชั่วโมง เว็บไซต์กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน www.phc.moph.go.th