กรมสบส. รณรงค์เก๋ “สวมหมวกกันน็อครับไข่ต้มฟรี” สร้างวินัยนักบิด-ซ้อน ลดเจ็บ-ตายสงกรานต์ทั่วไทย

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดรณรงค์ สวมหมวกกันน็อครับไข่ต้มฟรีที่ด่านชุมชน ปลูกฝังวินัยการขับขี่รถจักรยานยนต์ปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่ 11-17 เมษายน 2559 สร้างแรงจูงใจผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ใส่หมวกกันน็อคทั้งคนขับ คนซ้อนท้าย เผยผลสำรวจในปี 2557 พบอัตราเฉลี่ยผู้ใส่หมวกกันน็อคทั่วประเทศเพียงร้อยละ 42 วัยรุ่นใช้น้อยกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่าตัว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2558 พบทั้งคนตายและคนเจ็บ ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์และเป็นคนในพื้นที่ เช้าวันนี้ (12 เมษายน 2559) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมฯ และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ที่ด่านชุมชนประจำแยกปู่โพธิ์ ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ อ.เมือง จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรืออสม. ที่ปฏิบัติงานรณรงค์“สงกรานต์ปลอดภัย ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจร”ระหว่างวันที่ 11–17 เมษายน 2559 เน้นมาตรการ 3ม. 2ข. 1ร. และมาตรการสกัดกั้นคนเมาสุราไมให้ออกชุมชน ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน โดยในวันนี้ได้แจกไข่ต้ม ให้ผู้ขับขี่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายจราจร โดยเฉพาะผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ที่สวมหมวกนิรภัยทั้ง นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า ในปีนี้ กรมสบส.ได้ดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นองค์กรต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน จัดทำมาตรการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทั้งในภาวะปกติและช่วงเทศกาลวันหยุดยาวซึ่งเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด โดยมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ 11-17 เมษายน 2559 นี้ กรมสบส.มีนโยบายแจกไข่ไก่ต้มประมาณ 20,000 ฟอง ซึ่งองค์การเกษตรและอาหารโลกจัดว่าเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดีที่สุด บำรุงสุขภาพและสายตา เริ่มเป็นปีแรก เพื่อรณรงค์กระตุ้นการสร้างวินัยจราจร และจิตสำนึกด้านความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นพาหนะที่ใช้มากที่สุด 20 ล้านกว่าคัน เป็นต้นเหตุสำคัญการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร โดยให้สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพเขตในสังกัดกรมฯที่มี 12 เขตทั่วประเทศ เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ นครราชสีมา อุบลราชธานี ราชบุรี สงขลา ชลบุรีเป็นต้น ดำเนินการแจกเขตละประมาณ 500-1,000 ฟอง ที่ด่านชุมชนในพื้นที่รับผิดชอบเขตละ 5 - 8 จังหวัด ซึ่งกรมสบส.ได้ส่ง อสม.ร่วมปฏิบัติงานที่ด่านชุมชนวันละไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน ผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ไม่ว่าเป็นคนขับหรือคนซ้อนที่ใส่หมวกกันน็อค จะได้รับไข่ต้มฟรีคนละ 1 ฟอง หากไม่สวมจะได้รับการตักเตือนและคำแนะนำแทน นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้ช่วยอธิบดีกรมสบส.กล่าวว่า หมวกกันน็อค เป็นอุปกรณ์ลดความเสี่ยง และความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศีรษะลงได้ร้อยละ 72 ลดความเสี่ยงเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 39 ผลสำรวจอัตราการใช้หมวกกันน็อคของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย โดยมูลนิธิไทยโรดส์และเครือข่ายเฝ้าระวังสถานการณ์ความปลอดภัยทางถนนในปี 2557 พบผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายสวมในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 42 ผู้ขับใช้ร้อยละ 51 ผู้ซ้อนท้ายใช้เพียงร้อยละ 19 กลุ่มวัยรุ่นใช้เฉลี่ยเพียงร้อยละ 24 น้อยกว่าผู้ใหญ่เกือบ 2 เท่าตัว คนขับในเขตเมืองใช้ร้อยละ 81 ส่วนในชนบทใช้เพียงร้อยละ 35 ขณะเดียวกันข้อมูล 7 วัน เทศกาลสงกรานต์ในปี 2558 พบผู้เสียชีวิตร้อยละ 64 เป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และไม่สวมหมวกกันน็อคประมาณร้อยละ 26 ส่วนกลุ่มผู้บาดเจ็บเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82 ไม่สวมหมวกฯเกือบร้อยละ 30 ประการสำคัญทั้งผู้เสียชีวิตและผู้เสียชีวิต เป็นคนในพื้นที่ตำบลหรือแขวงมากกว่าคนนอกพื้นที่ถึง 2-3 เท่าตัว สำหรับการปฏิบัติงานของอสม.ที่ด่านชุมชนนั้น จะดำเนินการการดูแลสุขภาพผู้เดินทาง เช่นตรวจวัดความดันโลหิต แจกยาแก้ปวด ลดไข้เป็นต้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คุมเข้มมาตรการ เฝ้าระวัง ป้องกันอุบัติเหตุบนถนนในชุมชนให้ได้มากที่สุดคือ เมาไม่ขับ หากพบคนเมาจะให้หยุดพักที่ด่านชุมชนจนกว่าจะมีสภาพปกติ ให้ดื่มน้ำสมุนไพร เช่นรางจืด เพื่อขับพิษแอลกอฮอล์ สร่างเมาเร็วขึ้น หรือจัดพาหนะ ตามญาติมารับหรือนำส่งบ้าน ให้ผู้ขับขี่จักรยานยนต์ใช้รถในสภาพที่สมบูรณ์ และสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ขับรถไม่เกินความเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ผู้ขับขี่ต้องพกใบอนุญาตขับขี่ทุกครั้ง ผู้ขับขี่รถยนต์ ให้คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง