อธิบดีกรม สบส. ชี้ใบหน้าสุรชัย หลังศัลยกรรมดูเต่งตึงไร้ริ้วรอย ไม่เกินคาดหมาย ย้ำ 4 มี.ค. นี้ฟันธงเรื่องโฆษณาแน่!!
อธิบดีกรม สบส. ชี้ใบหน้าสุรชัย “หลังศัลยกรรมดูเต่งตึงไร้ริ้วรอย” ไม่เกินคาดหมาย ย้ำ 4 มี.ค. นี้ฟันธงเรื่องโฆษณาแน่!! อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แจงโฉมหน้าเต่งตึงไร้ริ้วรอยของนายสุรชัย สมบัติเจริญเป็นไปตามคาดหลังทำศัลยกรรม แต่ยังเดินหน้าเอาผิดประเด็นการโฆษณาสถานพยาบาล ในวันที่ 4 มีนาคมนี้แน่นอน พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย และยินดีรับเรื่องร้องเรียนกรณีพยาบาลทำผ่าตัดศัลยกรรมแทนแพทย์ โดยจะเร่งตรวจสอบทันที บ่ายวันนี้ (3 มีนาคม 2559) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การเผยโฉมหน้าของนายสุรชัย สมบัติเจริญ หลังการศัลยกรรม ในช่วง 11.00 น. ของวันนี้ พบว่าใบหน้ามีความเต่งตึงไร้ริ้วรอยไม่เกินความคาดหมาย เช่นเดียวกับผลการทำศัลยกรรมปกติรายอื่นๆ และถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้ที่รับบริการศัลยกรรมที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตนเอง แต่ในส่วนของการโฆษณากระชากวัยจาก 60 ปี เหลือ 30 ปี โดย ดร.เซปิง ไชยศาส์น ในโครงการเฟซออฟ (Face Off) นั้น ยังเข้าข่ายการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงให้แก่สถานพยาบาลที่ทำศัลยกรรมให้แก่นายสุรชัย แม้ว่าสถานพยาบาลแห่งนั้นจะไม่ได้โฆษณาด้วยตนเอง แต่เมื่อมีการโฆษณาโดยบุคคลอื่น และมิได้มีการทักท้วง หรือปฏิเสธ จึงเข้าข่ายรู้เห็น ยินยอมด้วย มีความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 11 พ.ศ. 2546 เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล ที่ว่าห้ามใช้ข้อความหรือรูปภาพโอ้อวดเกินจริง ทำให้ผู้รับบริการ หรือผู้บริโภคเข้าใจว่าการบริการของสถานพยาบาลแห่งนั้นมีคุณภาพมาตรฐานที่ดีกว่า เหนือกว่า หรือสูงกว่าสถานพยาบาลอื่น หรือเกิดความคาดหวังว่าจะได้รับบริการที่ดีกว่าหรือได้ผลสูงสุด โดยจะนำข้อมูลเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการการโฆษณาสถานพยาบาลในบ่ายวันพรุ่งนี้ (4 มีนาคม 2559) พร้อมกับกรณีของแพทย์หญิงอาภรณ์ ไชยเครื่อง หรือหมอไก่ที่ให้ข้อมูลโอ้อวดสถานพยาบาลว่า “ทำแล้วสวยทุกคน” และ “ถ้ามาที่คลินิกเคสที่ออกไปจะสวยทุกเคส” ทั้งนี้ กรม สบส. จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หากผลการตัดสินว่ามีการกระทำผิด ฝ่าฝืนกฎหมายการโฆษณาสถานพยาบาล 2 ฉบับ ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการเปรียบเทียบคดีดำเนินการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับ 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะยุติการเผยแพร่โฆษณานั้น อย่างไรก็ตามจากการให้สัมภาษณ์ของ ดร.เซปิง ในวันนี้ ที่จะเข้าร้องเรียนกรณีสถานพยาบาลที่ให้บริการเสริมความงามแห่งหนึ่งที่ให้พยาบาลทำการศัลยกรรมแทนแพทย์นั้น กรม สบส. พร้อมจะรับเรื่องร้องเรียน และจะเร่งดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน หากมีความผิดก็จะดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย หากประชาชนพบเห็น หรือมีเบาะแสหมอเถื่อน คลินิกเถื่อน หรือเป็นคลินิกที่ถูกกฎหมายแต่ใช้ผู้ทำการรักษาที่ไม่ใช่แพทย์ตามที่แสดงไว้ในสถานพยาบาล ขอให้แจ้งที่เฟชบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน, เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ หรือโทรสายด่วน 02-193-7999 กรม สบส.จะเร่งดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคทั้งชาวไทย และต่างชาติ
