กรม สบส.รับรองมาตรฐาน สุขศาลาพระราชทาน ทุกแห่งสู่เกณฑ์มินิสากล สำเร็จแล้ว 6 แห่งแรกประเทศ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เร่งพัฒนาระบบคุณภาพบริการสุขศาลาพระราชทาน ในพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ 17 แห่งทั่วประเทศ ทั้งสถานที่ ยาเวชภัณฑ์ เครื่องมือ บุคลากร เป็นที่พึ่งสุขภาพด่านแรกของนักเรียน ประชาชนในพื้นที่ไกลปืนเที่ยง ในปี 2559นี้ผ่านการรับรองเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพต้นแบบ 6 แห่งแรกประเทศ อาทิที่บ้านแสนคำลือ อ.ปางมะผ้าจ.แม่ฮ่องสอน คาดปี 2560 จะดำเนินการครบทุกแห่ง ผลการพัฒนาโดยรวมประชาชนศรัทธา เข้าใจปัญหาการเจ็บป่วยดีขึ้น เข้ารักษาเฉลี่ยแห่งละ 1,400 คนต่อปี การพึ่งหมอผีรักษาลดลง ลดอาการรุนแรงโรคได้ผล เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพนายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสาธารณสุข จังหวัดแม่ฮ่องสอนและคณะ เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาระบบมาตรฐานบริการของสุขศาลาพระราชทาน ในโครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.)บ้านแสนคำลือ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานบริการสาธารณสุข พัฒนามาจากห้องพยาบาลของโรงเรียนตชด.ดูแลสุขภาพนักเรียนและประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารตามแนวชายแดน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านของอสม. ชมผลงานของเจ้าหน้าที่และอสม.ในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ผู้พิการที่บ้านแอโก๋-แสนคำลือ เพื่อดูความเป็นอยู่และให้กำลังใจ นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวว่า สุขศาลาพระราชทานฯ เป็นสถานบริการสาธารณสุขขนาดเล็กอยู่ในสังกัดสำนักงานตำรวจตระเวนชายแดน นับเป็นสถานพยาบาลด่านหน้าในพื้นที่แนวชายแดนทุรกันดาร การเข้าถึงบริการสาธารณสุขยากลำบาก ขณะนี้มีทั้งหมด 17 แห่งใน 9 จังหวัด ได้แก่แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ ตาก กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ยะลาและนราธิวาส ให้บริการตั้งแต่พ.ศ. 2549 เป็นต้นมา มีบุคลากรปฏิบัติงานเฉลี่ยแห่งละ 3 คน ประกอบด้วยครูพยาบาลสนาม 2 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้ 1 คน กรมสบส.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการพัฒนาระบบคุณภาพบริการและพัฒนาอสม.เป็นแกนนำภาคประชาชน ร่วมพัฒนาสุขภาพในชุมชนและโรงเรียน ทำงานเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกับศูนย์สุขภาพชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ ให้บริการผสมผสานทั้งการรักษาพยาบาลขั้นต้นเช่นให้ยาเม็ด ทำแผล เจาะเลือดตรวจเชื้อมาลาเรีย ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพ การให้ความรู้ประชาชนในภาษาถิ่น การส่งผู้ป่วยหนักรักษาต่อผลการประเมินผลโดยรวมการดำเนินงานของสุขศาลาฯในรอบ 5 ปีและประเมินจากอสม. พบว่าชาวบ้านศรัทธา เข้าใจปัญหาการเจ็บป่วยดีขึ้น และเข้าใช้บริการที่สุขศาลาเฉลี่ยแห่งละประมาณ 1,500 คนต่อปี รูปแบบการพึ่งหมอผีซึ่งมักเป็นผู้สูงอายุ เปลี่ยนจากเดิมที่เคยเป็นผู้รักษาโรคทางกาย เป็นที่พึ่งพิงดูแลทางจิตใจแทน ส่งผลให้การรักษาได้ผลดี ป้องกันอาการป่วยรุนแรงแทรกซ้อนได้ผลดี เนื่องจากได้รับการดูแลถูกวิธีมาตั้งแต่เริ่มป่วย โรคที่พบอันดับ 1 ได้แก่โรคทางเดินหายใจเช่นไข้หวัดพบร้อยละ 40 รองลงมาคือระบบย่อยอาหาร ร้อยละ 26 ระบบกล้ามเนื้อ ร้อยละ 14 ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาล 95 คน มากที่สุดคือสุขศาลาฯบ้านเลตองคุ อ.อุ้มผาง จ.ตาก นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในช่วงปี 2559-2560 จะเน้นหนักการพัฒนาระบบบริการของสุขศาลาฯ ให้ได้ตามเกณฑ์คุณภาพมาตรฐานระดับสากลเหมือนกันทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจประชาชน โดยตั้งคณะกรรมการรับรองคุณภาพระบบบริการสุขภาพในสุขศาลาฯ 1 ชุด ประกอบด้วยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการจากหน่วยงานในและนอกสังกัดกรมสบส. สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล และกองกำกับตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกันวางหลักเกณฑ์คุณภาพโดยประยุกต์มาจากเกณฑ์คุณภาพสากลของโรงพยาบาล และปรับให้เหมาะสมกับบทบาท การดำเนินงานของสุขศาลาฯ มีทั้งหมด 5 หมวด ตั้งแต่โครงสร้างความปลอดภัยสถานที่ มาตรฐานบุคลากร มาตรฐานการบริการดูแลรักษาผู้ป่วย การจัดเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ที่จำเป็นดูแลผู้ป่วยทั้งภาวะปกติและฉุกเฉิน และการทำงานเชิงรุก ค้นหาผู้ป่วยเพื่อการเข้าถึงบริการ จากการตรวจประเมินล่าสุด ในปีนี้มีสุขศาลาผ่านเกณฑ์คุณภาพสามารถให้การรับรองมาตรฐานได้ 6 แห่งเป็นต้นแบบของประเทศ ได้แก่ สุขศาลาฯบ้านแสนคำลือ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน สุขศาลาฯบ้านแพรกตะคร้อ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สุขศาลาฯบ้านเลตองคุ อ.อุ้มผางจ.ตาก สุขศาลาฯบ้านไอร์บือแต อ.จะแนะ จ.นราธิวาส สุขศาลาฯบ้านละโอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และสุขศาลาฯบ้านไบก์ อ.เมือง จ.ยะลา และจะเร่งพัฒนาที่เหลืออีก 11 แห่ง ผ่านเกณฑ์ทุกแห่งในพ.ศ.2560 นอกจากนี้ ได้จัดหลักสูตรอบรมพัฒนาศักยภาพครูพยาบาลและเจ้าหน้าที่ประจำสุขศาลา เรื่องการการช่วยฟื้นคืนชีพ การรักษาพยาบาลเบื้องต้น ให้มีขีดความสามารถดูแลผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น เช่นรักษาไข้หวัด ไข้มาลาเรีย โรคอุจจาระร่วง อยู่ระหว่าง การออกระเบียบกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคุ้มครองการปฏิบัติงานด้านการรักษาพยาบาลของครูพยาบาลในการประกอบโรคศิลปะที่สุขศาลาพระราชทานด้วย เพิ่มรายการยาที่จำเป็นกับโรคที่พบในพื้นที่จากเดิม 53 รายการเป็น 115 รายการ เช่นยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไอ ยารักษาโรคกระเพาะอาหาร ยารักษาโรคมาลาเรีย วัณโรค ยาบำรุงเลือด โดยมียาสมุนไพร 3 รายการได้แก่ ยาประสะมะแว้ง ขมิ้นชุนแคบซูล ครีมว่านหางจระเข้ พัฒนาระบบการรักษาทางไกลผ่านทางวิทยุหรือทางอินเตอร์เน็ตเชื่อมระหว่างโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพในพื้นที่ การให้ความรู้สุขภาพแก่ชุมชนด้วยภาษาถิ่น ดึงปราชญ์พื้นบ้านมาร่วมสร้างสุขภาพประชาชนด้วย ทางด้านนายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สุขศาลาฯบ้านคำลือ เปิดบริการตั้งแต่พ.ศ. 2550 มุ่งเน้นงานตามโครงการพระราชดำริ ได้แก่การควบคุมปัญหาโรคขาดสารไอโอดีน งานโภชนาการ งานอนามัยแม่และเด็ก งานรักษาพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค งานคุ้มครองผู้บริโภค มีบุคลากรประจำการ 3 คน ดูแล 2 หมู่บ้านชายแดนคือบ้านแอโก๋ บ้านแสนคำลือ มีนักเรียน 116 คน มีประชากร 635 คน มีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 34 คน มีผู้สูงอายุติดเตียง 1 คน ผู้พิการ 9 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอร์ รายได้เฉลี่ย 1,000-1,500 บาทต่อเดือน มีอสม.19 คน ใช้ประปาภูเขาทั้งหมู่บ้าน ครัวเรือนมีส้วมราดน้ำใช้ร้อยละ 87 ในปี 2558 มีผู้ใช้บริการ 1,678 คน ส่วนใหญ่ป่วยเป็นไข้หวัด พบป่วยโรคอุจาระร่วง 45 คน มาลาเรีย 2 คน เด็กทุกคนได้รับวัคซีนป้องกันโรคตามกำหนดครบถ้วน หญิงมีครรภ์ได้รับการดูแลก่อนคลอดครบ5 ครั้ง เฉลี่ยร้อยละ 57 พบเด็กน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 2,500 กรัม 3 คน พบป่วยโรคเบาหวาน 7 คน เป็นโรคความดันโลหิตสูง 27 คน สาเหตุจากการกินเค็ม โดยเฉพาะผงชูรส พบเด็กนักเรียนเป็นพยาธิ 7 คน เป็นพยาธิปากขอ 3 คน ไส้เดือน 3 คนและพยาธิแส้ม้า 1 คน เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ขาดสารอาหารระดับ 1-2 ทั้งหมด 23 คน จากทั้งหมด 85 คน ไม่พบเด็กขาดสารไอโอดีน