กรม สบส.จับมือ ม.แม่ฟ้าหลวง ร่วมพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จับมือมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านเทคโนโลยี พร้อมผลิตบุคลากรของทั้งสองหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ให้นำไปใช้ในบริหารจัดการข้อมูล การบริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เริ่มดำเนินการในปี 2562 แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรม สบส.มีบทบาทคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ร่วมพัฒนาศักยภาพบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา ด้านระบบสารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการทำงานด้านระบบบริการสุขภาพให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเป็นการร่วมมือกันพัฒนาระบบและบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของทั้งสองหน่วยงาน เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมาประยุกต์ใช้ในองค์กรได้อย่างเหมาะสม และต่อยอดการให้บริการกับประชาชนได้อย่างเต็มศักยภาพ เข้าถึงการให้บริการได้ง่ายและทั่วถึงสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อร่วมกันพัฒนาและออกแบบซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านวิชาการของหน่วยงาน ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยี ให้มีประสบการณ์จริงสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพและสร้างรายได้ต่อไป ด้านนายอภินันท์ นิลฉาย ผู้อำนวยการกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาเทคโนโลยีและการสื่อสารจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ นำไปสู่การบริหารจัดการและการบริการของหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ อาทิ การส่งเสริมพัฒนาและอภิบาลระบบบริการสุขภาพให้ได้มาตรฐาน การบริการประชาชน และการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้สำหรับประชาชนเพื่อการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษาฝึกงานและร่วมเรียนรู้การทำงานจริง โดยมีบุคลากรของกรม สบส.ร่วมเป็นครูฝึกถ่ายทอดประสบการณ์การทำงาน เป็นการใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาของประเทศและระบบบริการสุขภาพของไทย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2562
