สบส.ติวเข้มตร.- กทม.ป้องปรามพริตตี้สปา/นวดเถื่อน
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)ติวเข้มนายตำรวจระดับสารวัตรและเจ้าหน้าที่กทม. เพื่อปราบปรามพริตตี้สปาสปาเก๊ นวดเถื่อนแฝงค้ากามให้หมดไปจากประเทศไทย เผยร้านที่มีใบอนุญาตแล้วทั่วประเทศ 2,000กว่าแห่ง เตือนร้านที่เปิดกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษทั้งจำทั้งปรับ วันนี้ (2กุมภาพันธ์ 2561) แพทย์หญิงประนอม คำเที่ยง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมฯมุ่งส่งเสริมสถานประกอบการเพื่อสุขภาพของไทยควบคู่ไปกับการคุ้มครองผู้บริโภคโดยการพยายามผลักดันกฎหมาย จนกระทั่งมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ตามที่ได้ทราบกัน โดยกรมฯมีการจัดอบรมให้ความรู้เรื่องการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับวันนี้ได้จัดสัมมนาพัฒนาบุคลากรด้านกฎหมายโดยผู้ร่วมสัมมนาเป็นนายตำรวจระดับสารวัตรที่รับผิดชอบงานด้านสถานบริการจากสถานีตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สังกัด กทม.รวมทั้งสิ้นกว่า 250 คนสิ่งที่กรมฯมุ่งหวังคือธุรกิจบริการสุขภาพของไทยต้องเป็นธุรกิจสีขาว ปราศจากร้านสปาเถื่อนพริตตี้สปาร้านนวดแอบแฝงค้าบริการที่ทำลายภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศและศักดิ์ศรีของหมอนวดไทยด้วยแต่สิ่งดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าขาดการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกรมฯจึงขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจและกทม.ในการตรวจสถานประกอบการ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้สถานประกอบการเพื่อสุขภาพจะต้องมีใบอนุญาตและสัญลักษณ์มาตรฐานสบส. ติดในที่เปิดเผยชัดเจน มีป้ายชื่อสถานประกอบการตรงกับประเภทกิจการ ไม่สื่อในทางล่อแหลมลามกอนาจาร ห้ามให้บริการของมึนเมา สารเสพติด ค้าประเวณีผู้ให้บริการต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีและมีการขึ้นทะเบียนกับกรมสบส. นายแพทย์ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผู้อำนวยการกองสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ล่าสุดมีสถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตทั่วประเทศ 2,000กว่าแห่ง แต่คาดว่าจำนวนร้านที่ประกอบกิจการมีจำนวนมากกว่านี้แน่นอนจึงขอให้กิจการทุกแห่งมายื่นขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย มิฉะนั้นจะมีความผิดฐานเปิดกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากแขวนป้ายชื่อร้านว่าสปานวดเพื่อสุขภาพหรือนวดเพื่อเสริมความงามโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องโดนโทษปรับอีกไม่เกิน 40,000บาท. ******************************2 กุมภาพันธ์ 2561