กรมสบส.จัดกิจกรรมวันเด็ก เสริม รู้คู่เล่น ชี้ผลสำรวจล่าสุด พบสุขบัญญัติ ป้องภัยเด็กจากเทคโนโลยีได้ผล!!!
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ร่วมจัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ที่สนามเสือป่า เน้นให้ความรู้พฤติกรรมสุขภาพตามสุขบัญญัติคู่กับการเล่นอย่างมีความสุข ฝึกการใช้สายตา สมาธิ มีรางวัลแจกเพียบ เผยผลสำรวจพฤติกรรม กลุ่มเด็กประถม 1 – 6 ใน 24 จังหวัดล่าสุดในปี 2558 พบร้อยละ 54 ปฏิบัติตัวได้ถูกต้องตามสุขบัญญัติแห่งชาติ ส่งผลให้ร้อยละ 74 ไม่มีปัญหาสุขภาพ มั่นใจว่าจะเป็นเครื่องมือป้องกันโรคภัยเด็กไทยรุ่นใหม่จากการรุกคืบของเทคโนโลยีได้ผลดี นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรมสบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2559 นี้ กรมสบส.ได้มอบหมายให้กองสุขศึกษา ร่วมจัดกิจกรรมให้ความรู้และความสนุกสนานแก่เด็กที่บริเวณสนามเสือป่า กทม.ด้วยมุ่งเน้นให้เด็กรู้เล่นให้เป็นสุข มีกิจกรรม 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มนิทรรศการให้ความรู้สุขบัญญัติแห่งชาติ 10 ประการ จัดเกมแฟนพันธุ์แท้สุขบัญญัติ การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายตามถนัดและกลุ่มสันทนาการ สร้างความสนุกสนานแก่เด็ก มีกิจกรรมสร้างสุขภาพสายตา สมาธิ อาทิ แว่นสร้างความกล้า ให้เด็กจับผิดภาพหรือจับคู่ภาพเหมือน โยนห่วงใส่ปากขวด ประกวดท่าเต้นสุขบัญญัติแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ 8.00 น. - 15.00 น. โดยเตรียมรางวัลแจกอย่างไม่อั้น เด็กที่ร่วมกิจกรรมจะได้รับทั้งความรู้การใช้พฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมและมีความสุข ซึ่งจะเอื้อให้เด็กเจริญเติบโต มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย เป็นต้นทุนอนาคตของชาติที่เข้มแข็ง “ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ ผลของการรุกคืบของเทคโนโลยี ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ สุขภาพของเด็กไทยรุ่นใหม่หลายด้าน ทั้งร่างกาย จิตใจของเด็ก เช่นการใช้มือและสายตาจ้องมองจอมือถือหรือคอมพิวเตอร์ การเกิดปัญหาติดเกมคอมพิวเตอร์ หรือตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาที่มีการทุ่มทุนอย่างมหาศาลของภาคธุรกิจ ทำให้เด็กมีค่านิยมผิดๆว่าการบริโภคของตามที่โฆษณาจะทำให้เป็นคนทันสมัย เป็นต้น” นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าว นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวต่อไปว่า ผลการสุ่มสำรวจพฤติกรรมสุขภาพตามหลักสุขบัญญัติ กลุ่มเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในโรงเรียนสุขบัญญัติที่อยู่ในพื้นที่ 24 จังหวัดทั่วประเทศ ช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายน 2558 จำนวน 3,656 คน พบว่า นักเรียนมีสุขภาพดี ไม่เป็นโรคประจำตัว ร้อยละ 74 เด็กได้รับความใส่ใจดูแลสุขภาพจากผู้ปกครองสูงถึงร้อยละ 98 โดยเฉลี่ยเด็กปฏิบัติได้ถูกต้องตามหลักสุขบัญญัติแห่งชาติทั้ง 10 ประการ ร้อยละ 54 เช่นแปรงฟันก่อนนอนร้อยละ 60 ล้างมือก่อนกินอาหารทุกครั้ง ร้อยละ 64 กินอาหารครบ 5 หมู่และกินผักทุกวันร้อยละ 74 ไม่สนใจเปิดดูภาพประเภทลามกที่เกี่ยวข้องทางเพศสัมพันธ์ สูงถึงร้อยละ 98 เป็นต้น พฤติกรรมความเสี่ยงที่ต้องปลูกฝังให้เด็กแก้ไขต่อเนื่องมี 4 เรื่อง เรื่องแรกได้แก่การกินอาหาร พบเด็กร้อยละ 20-30 ยังติดน้ำอัดลม ติดขนมกรุบกรอบต้องกินทุกวัน เรื่องที่ 2 คืออบายมุข เหล้าบุหรี่ ผลการสำรวจพบว่ามีเด็กร้อยละ 22 สูบบุหรี่เองหรือสูดควันบุหรี่มือสองและร้อยละ 9 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เรื่องที่ 3 มีเด็กออกกำลังกายน้อยหรือไม่ออกเลย ร้อยละ 37 ซึ่งตามหลักแล้วเด็กวัยนี้ควรออกกำลังกายอย่างน้อยครั้งละ 60 นาที สัปดาห์ละ 5 วัน และเรื่องที่ 4 พบเด็กทะเลาะวิวาทกับเพื่อนเมื่อรู้สึกไม่พอใจร้อยละ 50 นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวอีกว่า ในปี 2559-2560 นี้ กรมสบส.ซึ่งมีบทบาทหลักในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงของประชาชนที่ทำให้สุขภาพเสียให้หันมาสร้างสุขภาพตัวเอง หากปฏิบัติเป็นประจำจนเคยชินติดเป็นนิสัย จะทำให้แข็งแรงไม่ป่วย โดยจะขยายโรงเรียนสุขบัญญัติในระดับประถมศึกษาให้เต็มพื้นที่ในตำบลจัดการสุขภาพที่มีกว่า 7,000ตำบล มั่นใจว่าสุขบัญญัติแห่งชาติจะเป็นเครื่องมือป้องกันโรคภัยเด็กไทยรุ่นใหม่จากการรุกคืบเทคโนโลยีได้ผลดี ที่ผ่านมาดำเนินการครอบคลุมแล้วร้อยละ 50